ทำธุรกิจร้านสะดวกซัก วางแผนและคิดกำไรอย่างไรให้เติบโตได้ในระยะยาว

เชื่อว่าหลายคนคงสังเกตเห็นว่า “ธุรกิจร้านสะดวกซัก” กำลังเป็นกระแสที่มาแรงมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ โดยเฉพาะในย่านที่พักอาศัย เช่น ชุมชน คอนโดมิเนียมและหอพักก็มักจะมองเห็นร้านสะดวกซักเปิดให้บริการอยู่แทบทุกมุมถนน ด้วยเหตุนี้จึงยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ส่วนใหญ่จะใช้เวลาไปกับการทำงานนอกบ้าน ประกอบกับข้อจำกัดด้านพื้นที่ในการซักและตากผ้าของที่อยู่อาศัย ทำให้ร้านสะดวกซักกลายเป็นตัวช่วยสำคัญในการแก้ปัญหาเรื่องการซักผ้า แต่การที่ธุรกิจนี้กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ก็ทำให้หลายคนเริ่มสนใจที่จะลงทุน แล้วธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญจะสร้างผลตอบแทนได้คุ้มค่ากับการลงทุนจริงหรือไม่? มาหาคำตอบไปพร้อมกัน ในบทความความนี้ 

ธุรกิจร้านสะดวกซักลงทุนครั้งเดียว ได้ผลตอบแทนดีจริงไหม

ธุรกิจร้านสะดวกซัก คือการให้บริการซักผ้าแบบอัตโนมัติด้วยเครื่องซักผ้าและอบผ้ามาตรฐานอุตสาหกรรม ที่มีนวัตกรรมและระบบปฏิบัติการทันสมัย ช่วยให้ลูกค้าสามารถซักและอบผ้าได้อย่างสะอาดหมดจดภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ ธุรกิจประเภทนี้ยังสามารถสร้างรายได้เฉลี่ย 50,000 – 100,000 บาทต่อเดือน ด้วยอัตรากำไรสุทธิ 20 – 30% หากเลือกที่ตั้งทำเลได้ดี และมีจำนวนเครื่องที่สามารถรองรับลูกค้าได้เยอะ 

ก่อนลงทุนในธุรกิจร้านสะดวกซัก มีข้อควรรู้อะไรบ้าง

การลงทุนในธุรกิจร้านสะดวกซักอาจดูเหมือนเป็นธุรกิจที่ลงทุนครั้งเดียวแล้วรอรับผลตอบแทน แต่ความจริงแล้วมีปัจจัยสำคัญหลายอย่างที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุน มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

งบประมาณในการลงทุนธุรกิจสะดวกซัก

งบประมาณที่ต้องใช้ในการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดก่อนเริ่มต้นธุรกิจร้านสะดวกซัก ส่วนใหญ่พบว่าการลงทุนในร้านสะดวกซักรูปแบบต่าง ๆ มักมีงบประมาณที่แตกต่างกันออกไป เช่น

• เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญทั่วไปใช้เงินลงทุนเริ่มต้น 30,000 – 100,000 บาท 
• ร้านซักรีดทั่วไปใช้เงินลงทุน 40,000 – 100,000 บาท 
• ร้านสะดวกซักที่มีระบบครบวงจรจะใช้เงินลงทุนเริ่มต้นที่ 1 – 3.5 ล้านบาท 

ทั้งนี้ งบประมาณที่แตกต่างกันจะส่งผลต่อคุณภาพและจำนวนของอุปกรณ์ ขนาดของร้านและบริการเสริมต่าง ๆ เพื่อให้เสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการอีกด้วย 

ทำเลที่ตั้ง

การเลือกทำเลที่ตั้งถือเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในการทำธุรกิจร้านสะดวกซัก ควรพิจารณาพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นและมีความต้องการใช้บริการสูง เช่น บริเวณใกล้คอนโดมิเนียมที่มักมีผู้ใช้บริการสม่ำเสมอตลอดทั้งปี หรือย่านหอพักนักศึกษาที่จะมีลูกค้าหนาแน่นในช่วงเปิดเทอม แต่ก็จำเป็นต้องวางแผนรับมือกับช่วงปิดเทอมที่อาจมีจำนวนลูกค้าลดลง นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาถึงการแข่งขันในพื้นที่และความสะดวกในการเข้าถึงของลูกค้าด้วย

ต้นทุนในการดำเนินกิจการ

นอกเหนือจากค่าแฟรนไชส์และค่าอุปกรณ์แล้ว ผู้ที่สนใจลงทุนในธุรกิจนี้ก็จำเป็นต้องเข้าใจถึงต้นทุนในการดำเนินกิจการทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยค่าใช้จ่ายประจำเดือน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบำรุงรักษาเครื่อง ค่าทำความสะอาดและค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หากคุณเข้าใจโครงสร้างต้นทุนทั้งหมดนี้ ก็จะช่วยให้สามารถคำนวณงบกำไรขาดทุนสุทธิ และวางแผนการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย 

ทำธุรกิจร้านสะดวกซักคิดคำนวณต้นทุน อะไรบ้าง

ค่าเช่าที่ 

เริ่มต้นค่าเช่าที่ เป็นค่าจ่ายใช้ที่สำคัญในการทำธุรกิจร้านสะดวกซักเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในทำเลที่มีศักยภาพสูง เช่น ย่านคอนโดมิเนียมหรือย่านธุรกิจ ค่าเช่าอาจสูงถึง 15,000 – 40,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่และทำเล นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการตกแต่งร้าน หรืออาจมีค่ามัดจำค่าเช่าที่ต้องจ่ายล่วงหน้า ซึ่งต้องเตรียมเงินทุนสำรองไว้สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ด้วย

ค่าสาธารณูปโภค

ค่าสาธารณูปโภคเป็นต้นทุนผันแปรที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซัก ได้แก่ ค่าน้ำและค่าไฟฟ้า โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มีจำนวนค่อนข้างสูง เนื่องจากเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ค่าไฟฟ้าอาจสูงถึง 15,000 – 30,000 บาทต่อเดือน ส่วนค่าน้ำประปาอาจอยู่ที่ 5,000 – 10,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้าและประสิทธิภาพของเครื่อง จึงควรเลือกใช้เครื่องซักผ้าและอบผ้าที่ประหยัดพลังงานเพื่อควบคุมต้นทุนในส่วนนี้

ดอกเบี้ยกู้ยืม

ดอกเบี้ยเงินกู้ ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องกู้ยืมเงินมาลงทุนเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อต้องลงทุนในระบบแฟรนไชส์ร้านซักผ้าที่มีมูลค่าสูง ก็จำเป็นจะต้องมีการกู้ยืมสินเชื่อธุรกิจ โดยจะมีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มักอยู่ที่ 5 – 7% ต่อปี เช่น คุณกู้เงินเพื่อมาเปิดร้านสะดวกซัก 2 ล้านบาท อาจต้องจ่ายดอกเบี้ยถึง 8,000 – 12,000 บาทต่อเดือน อย่างไรก็ตาม ควรวางแผนการชำระหนี้และประมาณการรายได้ให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้เป็นภาระทางการเงินในระยะยาว

ค่าจ้างพนักงาน 

แม้ว่าธุรกิจร้านสะดวกซักจะเป็นระบบอัตโนมัติ แต่ก็ยังจำเป็นต้องมีพนักงานดูแลความเรียบร้อย ทำความสะอาดและให้บริการลูกค้า โดยค่าจ้างพนักงานอาจอยู่ที่ 12,000 – 15,000 บาทต่อคนและจำเป็นต้องจ่ายเป็นประจำทุกเดือน หากร้านไหนที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง ก็จำเป็นต้องจ้างพนักงานถึง 2 – 3 กะ ทำให้ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้สูงถึง 24,000 – 45,000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงค่าประกันสังคม โบนัส และสวัสดิการอื่น ๆ ที่ต้องให้เป็นสวัสดิการแก่พนักงานอีกด้วย

แนวโน้มธุรกิจร้านสะดวกซักในอนาคตไปในทิศทางไหนบ้าง 

ในปัจจุบัน เราจะเห็นว่าธุรกิจซักอบรีดแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญแบบดั้งเดิม ร้านซักรีดทั่วไปที่ใช้แรงงานคนและร้านสะดวกซักระบบอัตโนมัติ โดยร้านสะดวกซักกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด มีมูลค่าตลาดในปี 2565 สูงถึง 10,000 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าในอีก 6 – 7 ปีข้างหน้า จะมีร้านสะดวกซักเพิ่มขึ้นถึง 9,000 แห่งทั่วประเทศ สะท้อนให้เห็นว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่กำลังมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ ๆ

ระยะเวลาคืนทุนของธุรกิจร้านสะดวกซัก

การลงทุนในธุรกิจร้านสะดวกซักต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ขนาดของร้าน ประเภทและจำนวนเครื่อง รวมถึงสิ่งที่ทางแฟรนไชส์จัดเตรียมให้ โดยทั่วไประยะเวลาคืนทุนจะอยู่ที่ประมาณ 2 – 5 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการ หากร้านตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหนาแน่น ก็มีโอกาสคืนทุนได้เร็วขึ้นแน่นอน