รวมวิธีแก้เสื้อสีตกง่าย ๆ ทำเองได้

อย่างที่คุณพ่อบ้านและคุณแม่บ้านทราบกันดี เรื่องของการซักผ้าเป็นงานบ้านที่ค่อนข้างยุ่งยากไม่น้อยเลย โดยเฉพาะเรื่องของการแยกผ้าที่จำเป็นต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ เนื่องจากว่าหากไม่แยกผ้าให้ดีอาจจะเกิดปัญหาผ้าสีตกตามมาได้ ซึ่งหากเกิดปัญหานี้ขึ้นจริง ๆ ก็ถือว่าสร้างความปวดหัวให้ไม่น้อยเลย อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดปัญหาผ้าสีตกแล้วก็จำเป็นที่จะต้องหาวิธีแก้เสื้อสีตก เพื่อให้สีของเสื้อผ้ากลับมาเหมือนเดิม

รวมวิธีแก้เสื้อสีตกที่ใคร ๆ ก็ทำเองได้ ไม่ยากอย่างที่คิด

สำหรับปัญหาเสื้อสีตกนั้นหลัก ๆ แล้วจะเกิดขึ้นจากปัญหาของการที่ไม่ได้แยกผ้าสีออกจากผ้าสีอ่อน หรือผ้าสีขาว อีกทั้งยังเกิดจากการที่แช่ผ้าไว้เป็นเวลานานเกินไป รวมถึงเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ไม่เหมาะสมผ้าด้วย และด้วยสาเหตุเหล่านี้จึงทำให้เกิดปัญหาผ้าสีตกได้ อย่างไรก็ตามวิธีแก้เสื้อสีตกก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ซึ่งสามารถทำได้จากวิธีการดังต่อไปนี้

1. ต้มน้ำร้อน

วิธีการแรกที่จะช่วยแก้ปัญหาเสื้อสีตก คือ การต้มน้ำร้อน โดยวิธีการนี้ก็ให้ตั้งหม้อที่ใบค่อนข้างใหญ่พร้อมกับการเติมน้ำเปล่าลงไปต้มประมาณครึ่งหนึ่งของหม้อ จากนั้นให้เติมน้ำส้มสายชูลงไปผสมกับน้ำในหม้อด้วยแต่ไม่ต้องใส่เยอะเกินไปแค่พอให้มีกลิ่นฉุนของน้ำส้มสายชูก็พอแล้ว ต่อมาก็รอให้น้ำเดือดแล้วนำเสื้อที่สีตกใส่ลงไปต้มทั้งตัวและจะต้องคนไปเรื่อย ๆ จนกว่าสีที่ตกจะจางหายไป หลังจากนั้นจึงจะสามารถนำเสื้อที่สีตกไปซักได้ตามปกติต่อไป วิธีการนี้สามารถใช้ได้กับทั้งเสื้อขาวและเสื้อสี

2. สูตรน้ำยาล้างจานผสมผงซักฟอก

การใช้น้ำยาล้างจานผสมผงซักฟอกก็เป็นสิ่งที่ช่วยแก้ปัญหาเสื้อสีตกได้ โดยเฉพาะกับเสื้อตัวไหนที่มีสีตกแค่บางส่วนให้นำเอาน้ำยาล้างจานสูตรดั้งเดิมมาผสมเข้ากับผงซักฟอก พร้อมกับเติมน้ำลงไปนิดหน่อยแล้วกวนผสมให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีม แล้วนำไปป้ายลงบนบริเวณที่สีตกและจะต้องขยี้เสื้อไปด้วยแบบเบา ๆ จากนั้นให้แช่เสื้อทิ้งไว้เป็นเวลา 1 คืน หลังจากนั้นต่อไปก็ค่อยนำไปซักตามปกติ ทั้งนี้หากสีตกไม่หายไปก็ให้ทำด้วยวิธีการนี้ซ้ำอีกรอบและผสมน้ำยาฟอกผ้าขาวลงไปด้วยนิดหน่อย

3. แช่น้ำยาซักผ้าขาว

วิธีแก้เสื้อสีตกวิธีการต่อมาก็คือ การแช่เสื้อด้วยน้ำยาซักผ้าขาว การแก้ปัญหาสีตกด้วยวิธีการนี้สามารถทำได้ด้วยการนำเอาน้ำยาซักผ้าขาวผสมเข้ากับผงซักฟอกและน้ำส้มสายชู จากนั้นกวนให้ส่วนผสมทุกอย่างรวมเป็นเนื้อเดียวกันและเป็นเนื้อครีม แล้วให้นำไปป้ายลงบนบริเวณที่สีตกพร้อมกับขยี้เบา ๆ และนำเสื้อไปแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที หลังจากนั้นก็สามารถนำเสื้อไปซักและตากให้แห้งได้เลย โดยวิธีการนี้สามารถใช้ได้ทั้งน้ำยาซักผ้าขาวชนิดผงและน้ำยาซักผ้าขาวชนิดน้ำ

4. น้ำส้มสายชูผสม

น้ำส้มสายชูนับว่าเป็นไอเทมเด็ดที่ควรค่าแก่การมีติดบ้านไว้เป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างรวมถึงการแก้ปัญหาเสื้อสีตกด้วย โดยวิธีการก็ง่าย ๆ เพียงแค่นำเอาเสื้อที่สีตกไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 10 นาที จากนั้นให้แบ่งน้ำที่ต้มอยู่ออกมาเติมน้ำส้มสายชูและน้ำยาซักผ้าขาวใส่ลงไปด้วยประมาณ 1 ถ้วยตวง ต่อมาก็ผสมให้เข้ากันแล้วนำไปเทลงในเสื้อที่สีตกพร้อมกับแช่เสื้อทิ้งไว้ในน้ำและคนไปเรื่อย ๆ จนกว่าสีที่ตกจะจางไป

หลังจากที่สีที่ตกใส่เสื้อจางหายไปแล้ว ให้นำเอาเสื้อขึ้นจากน้ำร้อนไปแช่ในน้ำเย็นจัดทันที ต่อมาให้รอจนอุณหภูมิลดลงก็ให้นำผ้าขึ้นมาบิดให้หมาดแล้วไปแช่ต่อในขั้นตอนถัดไป จากนั้นจะต้องเตรียมภาชนะใส่น้ำสะอาดไว้พร้อมกับเติมเกลือลงไป 3 ช้อนโต๊ะ เมื่อคนผสมจนเกลือละลายให้นำผ้าที่สีตกมาแช่ทิ้งไว้สักพัก ให้นำน้ำส้มสายชู 1 ขวดเทลงไปผสมด้วยแล้วแช่ผ้าทิ้งไว้ต่อไปอีกประมาณ 20 นาที สุดท้ายแล้วก็นำไปซักตามปกติได้เลย

5. น้ำมะนาว

น้ำมะนาวเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่สามารถแก้ปัญหาเสื้อสีตกได้ โดยวิธีการก็คือให้นำเอาน้ำมะนาวหยดลงบริเวณที่สีตก จากนั้นกด ๆ ซับ ๆ น้ำมะนาวลงบนเสื้อให้น้ำมะนาวออกฤทธิ์ต่อสีที่ตกบนเสื้อ ต่อมาก็ให้ล้างผ้าด้วยน้ำสะอาดถ้าหากว่าสีที่ตกยังไม่หายไปก็ให้ทำวิธีการนี้ซ้ำอีกครั้ง

6. สูตรชาเขียวและเกลือ

วิธีแก้เสื้อสีตกวิธีสุดท้ายที่อยากแนะนำให้ลองใช้ คือ การใช้ชาเขียวและเกลือ โดยวิธีการนี้ให้นำเอาเสื้อที่สีตกแช่น้ำเย็นไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นให้นำชาเขียว 1 ถุงมาละลายกับน้ำร้อน 0.2 ลิตร ต่อมาก็ให้นำเสื้อที่สีตกลงไปแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีก่อนที่จะนำพาดไว้เพื่อทำการโรยเกลือให้ทั่วเสื้อแล้วปล่อยเสื้อทิ้งไว้ต่อไปอีก 15 นาที หลังจากนั้นค่อยนำเสื้อมาซักและตากให้แห้งต่อไป

สรุปบทความ

อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าเรื่องของปัญหาเสื้อสีตกเป็นสิ่งที่น่าปวดหัวมาก ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีวิธีแก้เสื้อสีตกที่สามารถช่วยให้สีเสื้อกลับมาเป็นแบบเดิม ซึ่งสามารถทำได้ด้วยวิธีที่ได้กล่าวไปข้างต้น ทั้งนี้ในการแก้ปัญหาเสื้อสีตกนั้นก็จำเป็นที่จะต้องซักเสื้อเป็นขั้นตอนสุดท้ายด้วย แต่ทุกคนโดยเฉพาะคนที่อยู่หออาจจะไม่มีเครื่องซักผ้าหรือไม่สะดวกซักด้วยมือ จึงทำให้การซักผ้าเป็นเรื่องลำบากแต่ทุกวันนี้สามารถทำได้สะดวกมากขึ้นด้วยการไปใช้บริการที่ร้านสะดวกซักทั่วไปได้เลยนั่นเอง